ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นสพ.มติชน : ฉลองตำแหน่งได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ก็เจองานหิน!!! กับการสรรหาบุคลากรในบังคับบัญชามาเป็น "รองปลัด สธ." จำนวน 4 คน เพื่อให้เข้ามาเป็นมือเป็นไม้ขับเคลื่อนงานในช่วง 2 ปีนับจากนี้ แต่ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่พิจารณาอนุมัติให้นำรายชื่อกลับไปทบทวนแล้วเสนอเข้าไปใหม่

ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ที่เมื่อมีปลัด สธ.คนใหม่ จะต้องมีการจัดวางกำลังใหม่ตาม เพื่อให้ได้คนทำงานที่เข้าขากัน แต่เหตุผลในการจัดทัพใหม่ครั้งนี้ เป็นเพราะคนเก่าคือ นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ลาออกไปเป็นคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และอีก 3 คนคือ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ ขยับขึ้นไปเป็นอธิบดีกรมอนามัย นพ.อำนวย กาจีนะ เป็นอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ เป็นอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

มีการคาดเดากันว่า "ใคร" คือผู้โชคดี 4 คน ที่ นพ.โสภณจะเลือกให้เป็นรองปลัด สธ. เพราะขณะนี้รายชื่อได้ถูกเสนอไปให้ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการ สธ.พิจารณา ก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาอนุมัติ

แว่วว่าในการประชุม ครม.วันที่ 13 ตุลาคม มีแนวโน้มกว่า 70% ที่ นพ.ปิยะสกลจะนำรายชื่อเดิมเสนอให้ ครม.พิจารณา โดยขณะนี้มีแคนดิเดต อยู่ 5 คน คือ นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 12 นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร ผู้ตรวจราชการเขต 6 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ผู้ตรวจราชการเขต 9 พญ.ประนอม คำเที่ยง ผู้ตรวจราชการเขต 10 และกรุงเทพมหานคร และ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย ผู้ตรวจราชการเขต 11

แต่จากการสอบถามผู้บริหารหลายคนวิเคราะห์ว่า ในจำนวน 5 รายชื่อที่ปรากฏ นพ.ธีรพลเป็นชื่อที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะไม่ว่าจะเลือกไว้หรือตัดออก ก็จะมีฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน กล่าวคือ หากตัด นพ.ธีรพลออก อาจทำให้กลุ่มโรงพยาบาลใหญ่รู้สึกผิดหวัง เพราะ นพ.ธีรพลจัดเป็นแพทย์สายโรงพยาบาล ทำงานมาตั้งแต่เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม จากนั้นเลื่อนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และขยับเป็นรองอธิบดีกรมอนามัย จนขึ้นเป็นผู้ตรวจราชการ สธ. ขณะเดียวกัน หากเลือก นพ.ธีรพลไว้ กลุ่มชมรมแพทย์ชนบทอาจไม่พอใจ เพราะก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กชมรมแพทย์ชนบทประกาศกร้าวไม่เอา นพ.ธีรพล เนื่องจากมองว่าเพราะเป็นหนึ่งในแกนนำประชาคมสาธารณสุข เป็นกลุ่มก๊วนอำนาจเก่าของ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัด สธ. นอกจากนี้ ชมรมแพทย์ชนบทก็ไม่สนับสนุน นพ.วิศิษฎ์ อีกคนหนึ่งด้วย

แต่หากเทียบอาวุโสของแต่ละคน สำหรับ นพ.วิศิษฎ์นั้น เป็นแพทย์ใช้ทุน สธ.รุ่นที่ 12 เคยเป็นรองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และขยับมาเป็นผู้ตรวจราชการ สธ.ตั้งแต่ปี 2553 จะเกษียณอายุราชการในปี 2560 ขณะที่ นพ.ธีรพล ก็เป็นแพทย์ใช้ทุน สธ.รุ่นที่ 12 เป็นผู้ตรวจราชการ สธ.ในปี 2556 เกษียณอายุราชการในปี 2560 ส่วน พญ.ประนอม เป็นแพทย์ใช้ทุน สธ.รุ่นที่ 12 เช่นกัน เป็นนายแพทย์สาธารณสุข (นพ.สสจ.) ลพบุรี เคยเป็นรองอธิบดี สบส.และเป็นผู้ตรวจราชการ สธ. ปี 2557 จะเกษียณอายุราชการในปี 2561 นพ.สุวรรณชัย เคยดำรงตำแหน่ง นพ.สสจ.ร้อยเอ็ด และเป็นรองอธิบดีกรมควบคุมโรค โดยขยับเป็นผู้ตรวจราชการในปี 2555 จะเกษียณอายุราชการในปี 2566 และ นพ.สมศักดิ์ เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรค และเป็นรองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้ตรวจราชการในปี 2557 เกษียณอายุราชการในปี 2566

นพ.โสภณ ย้ำมาตลอดว่า การแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งสำคัญครั้งนี้ เน้นเรื่องความเหมาะสมของการทำงาน ไม่มีการพิจารณาเกี่ยวข้องว่าเป็นคนของกลุ่มใด หรือมาจากสายไหน เรียกได้ว่า ยึด "ธรรมาภิบาล" เป็นหลัก

ในการแต่งตั้งโยกย้ายของ สธ.ล็อตนี้ ยังมีอีก 5 ตำแหน่ง ที่น่าจับตา คือ การแต่งตั้งอธิบดีกรม 3 ตำแหน่ง และการแต่งตั้งผู้ตรวจราชการ สธ.ระดับ 10 อีก 2 ตำแหน่ง โดยใน 2 ตำแหน่งล่าสุด มีชื่อ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาระดับกระทรวง และ นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ สาธารณสุขนิเทศก์ เป็นแคนดิเดต

ยังไม่คิดไกลไปถึงการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักต่างๆ ที่รอให้ปลัดคนใหม่ตัดสินใจ

ผู้เขียน : วารุณี สิทธิรังสรรค์ (email : warunee11@yahoo.com)

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 13 ตุลาคม 2558